(Un)silence breath หายใจเดียวกัน
“เราควบคุมอากาศไม่ได้แต่เราส่งเสียงของลมหายใจของเราได้เพราะเรามีลมหายใจเดียวกัน”
ปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำ ๆ ในช่วงหน้าแล้งของหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ
โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่มีความรุนแรงของฝุ่นควัน PM 2.5 หนักกว่าพื้นที่อื่น เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง จึงทำให้พื้นที่ภาคเหนือถูกเพ่งเล็งจากทั้งสังคมและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องว่า มีส่วนทำให้เกิดปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5และถูกเชื่อมโยงไปยังประเด็นฝุ่นควันจากการเผาทั้งในพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ป่า และพื้นที่โล่งแจ้ง โดยในความเป็นจริงควรแยกแยะการใช้ไฟในช่วงฝุ่นควัน PM2.5 ออกเป็นการใช้ไฟโดยจำเป็นและไม่จำเป็น อย่างกรณีการใช้ไฟของกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอเพื่อเตรียมพื้นที่ในการทำเกษตรกรรมตามวิถีดั้งเดิมอย่าง ‘ไร่หมุนเวียน’ ที่ตรงกับ ช่วงที่เกิดปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 เมื่อรัฐไม่เคยออกมาชี้แจงถึงสาเหตุของปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 อย่างตรงไปตรงมา การพยายามหาผู้รับผิดชอบในปัญหานี้จึงเกิดขึ้น และทำให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ป่าถูกมองอย่างเหมารวมว่าเป็นต้นตอของปัญหาฝุ่นควัน
แนวคิดของชิ้นงานนี้จึงมีความตั้งใจอยากสื่อสารไปยังประชาชนที่ล้วนแต่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ ผ่านรูปภาพ
‘จมูก’ ที่เป็นอวัยวะสำคัญในการหายใจของทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชนชั้นใด ช่วงวัยใด ประกอบอาชีพใด อาศัยอยู่ในเมืองหรือในป่า ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นเช่นเดียวกัน จึงเลือกใช้ ‘ฝุ่นจริง’ ที่เก็บจากสถานที่ต่าง ๆ ทั้งฝุ่นจากการเผา สถานที่ก่อสร้าง พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ป่า และถนน โปรยทับลงไปบนรูปจมูกของแต่ละคน เพื่อย้ำเตือนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหานี้แต่เพียงลำพัง ขณะที่รัฐบาลและหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการเอื้ออำนวยให้ประชาชนเข้าถึงอากาศสะอาด กลับไม่ได้มีความจริงใจในการดำเนินการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด หนำซ้ำยังปล่อยให้แหล่งกำเนิดฝุ่นลอยตัวเหนือปัญหามาเป็นระยะเวลาหลายปี ในชิ้นงานนี้มีชิ้นงานหนึ่งชิ้นที่ใช้แทน ‘กลุ่มทุนไทย’ บางกลุ่มที่ไปลงทุนและส่งเสริมการทำเกษตรกรรมเชิงเดี่ยวในรัฐฉาน เมียนมาร์ และลาว จนนำมาสู่ฝุ่นควันข้ามพรมแดน
‘จมูก’ ที่เป็นอวัยวะสำคัญในการหายใจของทุกคน ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบ แต่รัฐกลับไม่เคยออกมา
ชี้แจงถึงสาเหตุของปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 อย่างตรงไปตรงมา การพยายามหาผู้รับผิดชอบในปัญหานี้จึงเกิดขึ้น และทำให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ป่าถูกมองอย่างเหมารวมว่าเป็นต้นตอของปัญหาฝุ่นควันและกลับไม่ได้มีความจริงใจในการดำเนินการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด หนำซ้ำยังปล่อยให้แหล่งกำเนิดฝุ่นลอยตัวเหนือปัญหามาเป็นระยะเวลาหลายปี

เกษตรกร : พอมีนโยบายห้ามเผาออกมาเพื่อลดฝุ่น นโยบายนี้ไม่ช่วยแก้ปัญหาเลย อย่างช่วงที่ยังไม่ได้ใช้ไฟในการทำไร่ฝุ่นก็มีมาอยู่แล้ว
แสดงว่าฝุ่นมันมีที่มาที่ไป

คนงานก่อสร้าง : มันบอกไม่ค่อยถูก มันก็มีบ้างไม่มีบ้าง จริง ๆ ผมเพิ่งออกจากโรงพยาบาล เพราะเกิดจากงานพวกนี้ด้วย

คนทำงานในห้องแอร์ : เครื่องกรองอากาศมันจำเป็นอยู่แล้วนะ มันทำให้อากาศดีขึ้น ถ้าไม่มีเงินซื้อก็ต้องใส่แมสก์ ถ้าไม่มีเงินซื้อแมสก์ก็ชิบหาย

คนทั่วไป : ไม่อยากออกไปข้างนอกไปสัมผัสฝุ่น ห่วงเรื่องสุขภาพ

ตำรวจจราจร : เรื่องฝุ่นมันมีตลอด ภูมิต้านทานเราจะรับไหวแค่ไหน ถ้ารู้ตัวว่ารับไม่ไหว ก็ปิดจมูก ปิดบ้างเพื่อป้องกัน

คนทำงานกลางแจ้ง : มันก็อึดอัด หายใจไม่สะดวก เพราะเราทำงานที่ต้องใช้แรง ต้องหายใจเยอะ ๆ

ชาติพันธุ์ :