
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาวม้งขุนช่างเคี่ยน และเครือข่ายม้งจาก 12 ชุมชนมาร่วมกันทำแนวกันไฟ “ดอยหัวหมู” ระยะทาง 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแนวกันไฟของบ้านม้งขุนช่างเคี่ยน หลังจากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมเรื่องการดับไฟป่าในปีนี้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2568 ถือเป็น 90 วันอันตรายที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ได้ตลอดเวลา
เครือข่ายสิ่งแวดล้อมม้งดอยสุเทพ-ปุย 12 ชุมชนอันประกอบด้วย 1. บ้านดอยปุย 2. บ้านขุนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ 3. บ้านห้วยเสี้ยว 4. บ้านน้ำซุ่ม-ห้วยกว้าง ต.บ้านปง อ.หางดง 5. บ้านบวกจั่น 6. บ้านบวกเต๋ย 7. บ้านผานกกก ต.โป่งแยง อ.แม่ริม 8. บ้านแม่สาใหม่ 9. แม่สาน้อย 10. บ้านหนองหอยเก่า 11. บ้านหนองหอยใหม่ และ 12. บ้านแม่ขิ ต.แม่แรม อ.แม่ริม มีการรวมตัวเพื่อร่วมกันดูแลรักษาและปกป้องพื้นที่ป่าดอยสุเทพมาตั้งแต่ปี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้แต่ละชุมชนมีการทำแนวกันไฟ และช่วยกันดับไฟป่าด้วยงบประมาณของชุมชน จนกระทั่งเกิดไฟป่าใหญ่ที่ดอยสุเทพ ทำให้เริ่มมีงบประมาณสนับสนุนจากสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ปีละ 50,000 บาท ในจำนวนนี้จะใช้เป็นระยะเวลา 3 เดือนคือ มีนาคม-พฤษภาคม เช่น ที่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน สมาชิกที่ช่วยดับไฟป่าจะมาจากตัวแทนครัวเรือนจำนวน 162 ครัวเรือนแบ่งเป็น 11 ชุด ชุดละ 14 คน โดยงบประมาณที่ได้ทางหมู่บ้านจะแบ่งให้สมาชิกแต่ละคน คนละ 200 บาท โดยสมาชิกที่เป็นอาสาสมัครเพื่อดับไฟป่า และเป็นเวรยามเพื่อดับไฟป่าในทุกเวลาที่มีไฟป่าเกิดขึ้นแม้ในยามค่ำคืน
ถ้ายังจำกันได้ย้อนหลังไป 5 ปี ปี 2563 เคยเกิดไฟป่าลามในเขตอุทยานดอยสุเทพ-ปุย ลุกลามในเขตรอยต่อทั้งอำเภอเมือง และอำเภอหางดง ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันต่อเนื่องกัน ส่วนหนึ่งนอกจากอุปสรรคในสภาพภูมิประเทศที่เป็นเขาสูง เชื้อไฟจากเศษซากใบไม้ กิ่งไม้แห้ง ความแห้งแล้ง และมีลมแรง ทั้งเขตรอยต่อเขต อ.เมืองเชียงใหม่ และ อ.หางดง ตั้งแต่แนวป่าของ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ และ ต.บ้านปง อ.หางดง ไฟป่าเกือบลามเข้าไปยังวัด และเขตบ้านเรือนประชาชนจนต้องระดมกำลังไปช่วยดับไฟ ขณะที่ภาพถ่ายจากกลุ่มโดรนจิตอาสา พบว่า เกิดไฟป่าลุกลามต่อเนื่องมาถึงด้านหลังวัดดอยคำ จนเกิดภาพเปลวไฟโอบล้อมด้านหลังวัดพระธาตุดอยคำ และด้านหน้าคือ ตัวเมืองเชียงใหม่ที่อยู่ด้านล่าง ไฟป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเกือบ 1 สัปดาห์ พบว่า ควันไฟจากไฟป่า ลอยเข้ามาสะสมในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ จนค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานมาอยู่ในระดับวิกฤติ แม้บางช่วงของวันจะมีกระแสลมช่วยพัดผ่าน แต่พอเช้าช่วงกลางคืนอากาศเย็นที่กดทับทำให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นควันอีก
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้หลายภาคส่วนเกิดความตื่นตัวต่อการช่วยกันดับไฟบนดอยสุเทพ-ปุยในช่วงฤดูแล้ง อย่างไรก็ตามก็ยังมีเสียงสะท้อนจากชุมชนม้งในพื้นที่ พ่อหลวงเมธาพันธ์ ภุชกฤษดาภา ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอยปุย และประธานเครือข่ายชุมชนบ้านม้งรอบดอยสุเทพ 12 หมู่บ้านให้ความเห็นว่า การดับไฟบนเขาสูงชันนั้นยังมีเรื่องที่อยากให้คนในเมือง หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่ต้องการสนับสนุนชุมชนได้เข้าใจสภาพพื้นที่ด้วย คือพื้นที่เป็นเขาสูงชัน และบางจุดเป็นหน้าผาไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ และระหว่างที่เผชิญเหตุยังมีเส้นทางหลายเส้นทางที่เส้นทางเล็กมาก เวลาที่จะขนอุปกรณ์เพื่อดับไฟป่าก็จะเจอปัญหาว่าไปได้ทีละคัน ทำให้งานดับไฟป่าอาจจะล่าช้าไปบ้าง “ขนาดที่คนของเราที่ขับมอเตอร์ไซด์เร็วที่สุดในหมู่บ้าน หลายครั้งเมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุก็อาจจะช้าไป ทำให้ไฟป่าลามไปอย่างรวดเร็วแล้ว”
ส่วนเรื่องการลาดตระเวน หลังจากที่หมู่บ้านได้รับการสนับสนุนเรื่องการติดกล้องวงจรปิดจากหน่วยงานภายนอกแล้ว ก็ทำให้เป็นผู้ช่วยเรื่องการลาดตระเวนได้ดี พอเราเห็นไฟขึ้น เราสามารถเตรียมอุปกรณ์และเรียกลูกบ้านไปดับได้ทันที อย่างไรก็ตามการติดกล้องก็ยังมีค่าใช้จ่ายในการดูแลอุปกรณ์ เช่น ค่าอินเตอร์เน็ต และการซ่อมบำรุงรวมอยู่ด้วย

การมีโดรนเพื่อลาดตระเวนก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็ยังไม่แม่นยำเท่ากับโดรนจับจุด Hotspot ที่มีราคาแพงมากราคาหลักแสน โดยปีที่แล้วทางพื้นที่ก็ยืมมาจาก อบจ. ซึ่งพบว่ามีอยู่เพียงตัวเดียวแต่ใช้กันทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ในอนาคตถ้าหน่วยงานภาครัฐสามารถหาอุปกรณ์ดังกล่าวมาได้ก็จะช่วยชาวบ้านไปดับไฟป่าได้ก็จะดียิ่งขึ้น ทุกวันนี้ชาวบ้านทำหอสูง ๆ และติดกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นการช่วยเฝ้าระวังไฟป่าได้ระดับหนึ่ง ซึ่งก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เช่น ค่าอินเตอร์เน็ตรายเดือนอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามก็มีจุดบอดที่อยู่ใต้ไม่ใหญ่ และเรามองไม่เห็น พอเห็นไฟก็ไหม้ลามไปเยอะแล้ว “ถ้ามีโดรนจับความร้อน เราจะสามารถจับมือคนเผาได้แน่นอน” พ่อหลวงยืนยืน
นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ที่คล้าย ๆ กับบ้านม้งขุนช่างเคี่ยนคือ เขตสุญญากาศ และเขตที่ไม่มีคนรับผิดชอบ ระหว่างหมู่บ้านซึ่งของบ้านม้งดอยปุยนั้นมีจุดที่เป็นห่วง และยังต้องเฝ้าระวังคือบริเวณป่าแม่นาไทรระหว่างบ้านม้งดอยปุย อ.เมือง กับบ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เวิ้งนั้นไกลจากหมู่บ้านมากถือเป็นจุดที่อันตรายที่สุดของดอยสุเทพ-ปุย หากมีเครื่องมือที่เฝ้าระวังที่ดีกว่านี้ และมีการวางแผนหลายภาคส่วนก็จะทำให้ป้องกันไฟป่าได้ดีขึ้น พ่อหลวงให้ความเห็น



.png)